คอมรถเสียงดัง
บทความน่ารู้คอมแอร์รถยนต์เสียงดัง กึกๆ, วี๊ด, ครืดๆ ซ่อมและแก้ไขอย่างไร
คอมแอร์รถยนต์เสียงดัง กึกๆ, วี๊ด, ครืดๆ ซ่อมและแก้ไขอย่างไร ซ่อมได้ไหมหรือว่าต้องเปลี่ยนใหม่ยกลูก และมีค่าใช้จ่ายในการซ่อม/เปลี่ยนเท่าไหร่ รวมไปถึงยังสามารถใช้งานรถยนต์ของท่านต่อไปหรือว่าควรจะรีบเข้าศูนย์หรือร้านแอร์เพื่อทำการเช็คและซ่อมต่อไป
คอมแอร์รถยนต์ (Automotive Air Conditioning Compressor) ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยสร้างความเย็นสบายในห้องโดยสาร อย่างไรก็ตาม เมื่อคอมแอร์มีเสียงดังผิดปกติ เช่น เสียงดัง “กึกๆ”, “หวีดๆ”, หรือ “ครืดๆ” อาจบ่งบอกถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับชิ้นส่วนภายในระบบ คอมแอร์เสียงดังไม่เพียงแต่สร้างความรำคาญ แต่ยังอาจส่งผลให้ระบบแอร์เสียหายรุนแรงขึ้นหากไม่ได้รับการซ่อมแซมทันท่วงที
บทความนี้จะให้ความรู้เกี่ยวกับเสียงจากคอมแอร์และส่วนที่มีปัญหา สาเหตุที่ทำให้เกิดเสียงดัง วิธีการแก้ไขปัญหา และค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในการซ่อมแซม
เสียงดังจากคอมแอร์: เสียงจากส่วนใดบ้าง?
1. เสียงดัง “กึกๆ” หรือ “คลิก”
เสียงนี้มักจะได้ยินเมื่อระบบแอร์เริ่มทำงานหรือหยุดทำงาน โดยมักเกิดจาก หน้าคลัตช์ (Clutch) ที่ทำงานไม่ปกติ หน้าคลัตช์ทำหน้าที่เชื่อมต่อและแยกคอมเพรสเซอร์กับสายพานของเครื่องยนต์ หากหน้าคลัตช์เสื่อมสภาพหรือมีรอยขีดข่วน อาจทำให้เกิดเสียงดัง
2. เสียงดัง “หวีด” หรือ “วี๊ด”
เสียงดังนี้มักเกิดจาก สายพาน (Belt) ที่หลวม หรือตึงเกินไป สายพานเป็นส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างเครื่องยนต์กับคอมแอร์ หากสายพานขยายตัวหรือเสื่อมสภาพ อาจทำให้เกิดการเสียดสีและเสียงหวีด
3. เสียงดัง “ครืดๆ” หรือ “กรอบแกรบ”
เสียงดังนี้มักเป็นสัญญาณของปัญหาภายใน ลูกปืน (Bearing) หรือ ลูกสูบ (Piston) ที่สึกหรอ การเสียดสีของชิ้นส่วนที่เสียหายอาจทำให้เกิดเสียงครืดๆ หรือเสียงกรอบแกรบ
4. เสียงดัง “ปั้ง” หรือ “ก้อง”
หากได้ยินเสียงดังปั้งหรือเสียงก้องจากคอมแอร์ อาจเกิดจากปัญหา แรงดันในระบบแอร์ ที่สูงเกินไป หรือชิ้นส่วนภายในคอมแอร์ที่แตกหักหรือเสียหาย
สาเหตุของปัญหาเสียงดังจากคอมแอร์
1. การเสื่อมสภาพของหน้าคลัตช์
หน้าคลัตช์มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมต่อคอมแอร์กับเครื่องยนต์ เมื่อหน้าคลัตช์เสื่อมสภาพจากการใช้งานที่ยาวนาน จะทำให้เกิดเสียงดัง “กึกๆ” หรือ “คลิก” เมื่อมีการเปิดหรือปิดระบบแอร์
อ้างอิง: Your Mechanic
2. สายพานที่เสื่อมสภาพ
สายพานที่ตึงเกินไปหรือหลวมเกินไปเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คอมแอร์มีเสียงดัง การตรวจสอบและเปลี่ยนสายพานเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้
อ้างอิง: AutoZone
3. ปัญหาจากลูกปืนที่เสียหาย
ลูกปืนเป็นชิ้นส่วนที่ช่วยลดแรงเสียดทานระหว่างการหมุน หากลูกปืนสึกหรอ จะทำให้เกิดเสียงดัง “ครืดๆ” หรือ “กรอบแกรบ” ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของปัญหา
อ้างอิง: CarParts.com
4. การขาดน้ำมันหล่อลื่นในคอมแอร์
น้ำมันหล่อลื่นในคอมแอร์ช่วยลดการเสียดสีของลูกสูบและชิ้นส่วนภายใน หากน้ำมันหล่อลื่นไม่เพียงพอ จะทำให้เกิดการเสียดสีและเสียงดัง
อ้างอิง: AC Pro
5. แรงดันในระบบแอร์สูงเกินไป
แรงดันที่สูงเกินไปอาจทำให้คอมแอร์ทำงานหนักและเกิดเสียงดัง โดยเฉพาะเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของแรงดันอย่างรวดเร็ว
อ้างอิง: Mechanic Base
วิธีการแก้ไขปัญหาเสียงดังจากคอมแอร์
1. ตรวจสอบและเปลี่ยนสายพาน
หากตรวจสอบแล้วพบว่าสายพานหลวม ควรปรับความตึงให้เหมาะสม แต่หากสายพานมีรอยขีดข่วนหรือเสื่อมสภาพ ควรทำการเปลี่ยนสายพานใหม่
2. เปลี่ยนหน้าคลัตช์คอมแอร์
การเปลี่ยนหน้าคลัตช์คอมแอร์เป็นวิธีที่ดีที่สุดหากหน้าคลัตช์เสื่อมสภาพ การใช้อะไหล่แท้จะช่วยยืดอายุการใช้งานของคอมแอร์ได้
3. เติมน้ำมันหล่อลื่นในคอมแอร์
การเติมน้ำมันหล่อลื่นเป็นการบำรุงรักษาที่จำเป็น ควรตรวจสอบและเติมน้ำมันตามมาตรฐานที่กำหนดไว้
4. ซ่อมหรือเปลี่ยนลูกปืนคอมแอร์
หากตรวจสอบพบว่าลูกปืนสึกหรอหรือเสียหาย ควรทำการซ่อมหรือเปลี่ยนลูกปืนใหม่เพื่อป้องกันไม่ให้คอมแอร์เสียหายเพิ่มเติม
5. ปรับแรงดันในระบบแอร์
หากพบว่าแรงดันในระบบสูงเกินไป ควรทำการปรับแรงดันให้เหมาะสมตามมาตรฐานของผู้ผลิต
อ้างอิง: RepairPal
ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและเปลี่ยนอะไหล่
รายการซ่อมแซม | ค่าใช้จ่าย (โดยประมาณ) |
---|---|
เปลี่ยนสายพาน | 500 – 1,500 บาท |
เปลี่ยนหน้าคลัตช์ | 1,500 – 3,000 บาท |
เติมน้ำมันหล่อลื่น | 800 – 1,200 บาท |
เปลี่ยนลูกปืนคอมแอร์ | 1,000 – 2,500 บาท |
ซ่อมหรือเปลี่ยนคอมแอร์ | 5,000 – 12,000 บาท |
อ้างอิง: Consumer Reports
ควรใช้รถต่อหรือไม่ หากคอมแอร์มีเสียงดัง?
เมื่อคุณสังเกตเห็นว่าคอมแอร์มีเสียงดังผิดปกติ คำถามที่เกิดขึ้นบ่อยคือ “เราควรใช้รถต่อไปหรือไม่?” และ “ควรหยุดเปิดแอร์หรือเปล่า?” คำตอบนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยและระดับของปัญหาที่เกิดขึ้น:
กรณีที่เสียงดังเบาและไม่บ่อยครั้ง:
- หากเสียงดังมีลักษณะเบาและเกิดขึ้นเพียงบางครั้ง เช่น เสียง “คลิก” เล็กน้อยเมื่อติดเครื่อง หรือเสียง “หวีด” ขณะเปิดแอร์ แนะนำให้ ตรวจสอบระบบสายพาน ก่อน และอาจใช้รถต่อได้หากยังไม่พบปัญหารุนแรง
- ควรรีบตรวจเช็กและซ่อมแซมทันทีที่มีโอกาส เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของระบบแอร์
กรณีที่เสียงดังมากและต่อเนื่อง:
- หากเสียงดังมีความรุนแรง เช่น เสียง “ครืดๆ”, “ปั้ง” หรือ “ก้อง” ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง หรือมีการสั่นสะเทือนจากคอมแอร์ ไม่ควรเปิดแอร์และหยุดใช้ระบบแอร์ทันที เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติมต่อคอมแอร์และชิ้นส่วนอื่น ๆ
- การใช้รถต่อในสภาวะนี้อาจทำให้ คอมแอร์เกิดการเสียหายอย่างถาวร และค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมจะสูงขึ้นมาก
- ควรนำรถเข้าศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถทันทีเพื่อให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ
ควรปิดระบบแอร์เมื่อใด?
- หากได้ยินเสียงดังจากระบบแอร์ที่ผิดปกติ ควร ปิดแอร์ทันที แล้วตรวจสอบอาการเพิ่มเติม เช่น สังเกตดูว่าเสียงหายไปหรือไม่เมื่อปิดแอร์
- หากเสียงยังคงดังต่อแม้จะปิดแอร์แล้ว อาจเกิดจากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสายพานหรือหน้าคลัตช์ของคอมแอร์ ซึ่งควรรีบนำรถไปตรวจสอบ
ความเสี่ยงจากการใช้รถต่อเมื่อคอมแอร์มีปัญหา:
- การใช้รถต่อทั้งที่คอมแอร์มีเสียงดังอาจทำให้ ชิ้นส่วนภายในคอมแอร์แตกหักหรือหลุดออกมา ซึ่งสามารถทำให้ระบบแอร์ทั้งหมดเสียหาย
- น้ำมันหล่อลื่นอาจรั่วไหล หากลูกปืนหรือซีลเสียหาย ทำให้เกิดการเสียดสีและความร้อนสูงขึ้น ซึ่งเสี่ยงต่อการทำให้คอมแอร์พัง
คำแนะนำสุดท้าย:
- หากได้ยินเสียงดังเล็กน้อย: คุณอาจใช้รถต่อได้ แต่ควรนัดหมายเพื่อตรวจเช็กและซ่อมแซมในเร็ววัน
- หากได้ยินเสียงดังชัดเจนหรือเสียงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง: แนะนำให้หยุดเปิดแอร์ทันทีและนำรถเข้าตรวจสอบ อย่าเสี่ยงใช้ระบบแอร์ เพราะอาจทำให้ปัญหาใหญ่ขึ้นและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมจะสูงขึ้น
- การดูแลรักษาเชิงป้องกัน: ควรตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบแอร์ทุก ๆ 6 เดือน หรือทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร เพื่อให้มั่นใจว่าคอมแอร์และระบบแอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป: ใช้รถต่อหรือไม่?
- คุณสามารถใช้รถต่อได้ หากปิดระบบแอร์ และไม่ได้ยินเสียงดังที่รบกวน แต่หากมีเสียงดังชัดเจนจากคอมแอร์ ควรหยุดใช้แอร์ทันที และนำรถไปตรวจสอบเพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม